เหตุผลที่ควรมี "รถไฟฟ้า" ติดบ้านไว้

เรามาดูกันว่า ทำไมเราควรมี รถไฟฟ้า ติดบ้านไว้ แล้วรถไฟฟ้าดีกว่ามอเตอร์ไซค์ปกติอย่างไร มีเหตุผลอะไรบ้าง

ประหยัดเงิน ลดรายจ่ายค่าน้ำมัน
การใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นประหยัดเงินกว่าการใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันมากถึง 10 เท่า ซึ่งการใช้รถมอเตอร์ไซค์จะใช้พลังงานจากไฟฟ้าที่ชาร์จเข้าไป โดยไม่ต้องเติมน้ำมัน

ประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์น้ำมัน

เพราะพลังงานไฟฟ้า ถูกถ่ายเทไปที่มอเตอร์ของตัวเครื่องอย่างเดียว ทำให้มอเตอร์มีประสิทธิภาพมากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถใช้ควบคู่กับแหล่งกำเนิดไฟฟ้าทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนได้

เร็วกำลังดี ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
รถไฟฟ้ามีระดับความแรงของมอเตอร์ที่ไม่สูงมาก มีความเร็วในการขับเคลื่อนที่พอดีกับสายตาผู้สูงอายุ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการกระชากของรถ ที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือเสียการทรงตัวกะทันหัน

มีการใช้งานที่ง่าย
รถจักรยานไฟฟ้านั้นใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน ฟังก์ชันไม่เยอะ ไม่ได้มีปุ่มเยอะ ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์รถไปมา ผู้สูงอายุสามารถทำความเข้าใจและขับขี่เองได้ง่าย ๆ

สามารถทรงตัวได้ดี
รถจักรยานไฟฟ้า รุ่นที่มี 3 ล้อ และ 4 ล้อนั้น สามารถทรงตัวได้ดี ไม่ต้องกังวลว่ารถจะล้มหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้น คนที่ขับรถไม่เป็นก็สามารรถขับได้อย่างปลอดภัย

ไม่ก่อมลพิษ ไม่สร้างมลภาวะ
จุดเด่นของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คือ ไม่สร้างมลพิษต่าง ๆ ลดภาวะการเกิดเสียงดัง ไม่รบกวนผู้อื่น ไม่มีการปล่อยควันจากท่อไอเสีย ไม่สร้างฝุ่นควัน แถมยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพร่างกายขอผู้ใช้งานน้อยมาก ๆ

ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก
เพียงแค่เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ฝุ่นเกาะกับตัวรถมากเกินไป และจอดในที่ร่มหลีกเลี่ยงการตากไว้กลางแดด เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

 
ประโยชน์ของการใช้รถไฟฟ้า
ประโยชน์ของการใช้รถไฟฟ้าที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ รถไฟฟ้าจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดโลกร้อน ลดมลภาวะทางอากาศเพราะรถไฟฟ้าจะไม่มีการเผาไหม้และปล่อยควันพิษออกมาเหมือนรถทั่วไป เวลาขับขี่รถไฟฟ้านี้จะไม่มีเสียงดังรบกวนเหมือนรถทั่วไป เพราะใช้มอเตอร์แทนเครื่องยนต์ จึงไม่ทำให้เกิดเสียงดังรบกวน การซ่อมบำรุงของรถไฟฟ้าก็จะน้อยกว่าเพราะไม่มีเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนและเยอะแยะเหมือนรถทั่วไป และที่สำคัญการใช้รถไฟฟ้านั้นทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากเพราะไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมัน จ่ายค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ

ทำไมรถไฟฟ้าถึงประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่ามอเตอร์ไซค์ปกติ
รถไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่เป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ไม่ได้ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป มอเตอร์ไซค์รถไฟฟ้าจึงเป็นรถที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์โลกที่น้ำมันราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาน้ำมันอีกต่อไป และรถไฟฟ้ายังเป็นพลังงานสะอาด ไม่ปล่อยควันพิษซึ่งก่อให้เกิดปัญหามลพิษเนื่องจากการขับรถไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้านั่นเอง แต่ข้อเสียของรถไฟฟ้าก็คือการที่ต้องใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ 6-8 ชั่วโมงนั่นเอง ถ้าหากต้องการใช้ทุกวัน แนะนำว่าให้ควรวางแผนการชาร์จให้ดีก่อนการใช้

 

รถไฟฟ้าเหมาะกับใครบ้าง?
รถไฟฟ้าสามารถใช้งานได้หลากหลายแบบตามความต้องการ จึงเหมาะกับทุกคนทุกเพศทุกวัย ด้วยขนาดของตัวรถที่แข็งแรง และกำลังขับเคลื่อนของมอเตอร์ไม่ได้แรงเหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไป เนื่องจากบางรุ่นมี 3 ล้อ และ 4 ล้อ สามารถทรงตัวได้ดีกว่า เลยมีความปลอดภัยสูง ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน จึงลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุในท้องถนนได้มากกว่ามอเตอร์ไซค์ทั่วไป รถไฟฟ้านั้นเหมาะกับการใช้ในระยะทางที่ใกล้ ไม่สามารถขับขี่ระยะทางไกลเหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไป

• แม่บ้าน

สำหรับแม่บ้านหลาย ๆ คนที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน แต่ยังจำเป็นต้องออกไปตลาด หรือร้านค้าใกล้บ้านอยู่สม่ำเสมอ รถไฟฟ้าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีของเหล่าคุณแม่บ้าน เพราะนอกจากจะประหยัดเรื่องเชื้อเพลิงแล้ว ยังปลอดภัย ทำให้คุณแม่บ้านทุกท่านสามารถพาลูก ๆ นั่งไปได้ด้วยอย่างปลอดภัยนั่นเอง

 

• ผู้สูงอายุ

หากบ้านของคุณมีผู้สูงอายุ คงไม่อยากให้ท่านต้องเดินทางไปไหนด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความเสี่ยงในการล้มคว่ำได้ง่าย และเป็นอันตรายต่อท่าน รถไฟฟ้าจึงเป็นทางออกที่หลาย ๆ บ้านเลือกใช้ เพราะนอกจากจะจำกัดความเร็วแล้ว ยังทรงตัวได้ดียากต่อการพลิกคว่ำ

 

• ผู้หัดขับขี่รถมือใหม่

รถไฟฟ้านั้นเหมาะกับทุกรุ่นทุกวัยที่กำลังหัดฝึกขับขี่มอเตอร์ไซค์ การเลือกรถไฟฟ้าไปฝึกขับมอเตอร์ไซค์กัน เพราะรถไฟฟ้านั้นมีความมั่นคงกว่า ล้มยากกว่า ทำให้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเรื่องการทรงตัว หรือทรงตัวได้ไม่ดี รวมทั้งใครที่กำลังหัดฝึกขับมอเตอร์ไซค์ไม่ว่าจะรุ่นไหนวัยไหนก็มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย

• ทุกคนในครอบครัว

จะเห็นได้ว่าความจริงแล้วรถไฟฟ้านั้นเหมาะกับคนทุกวัยทุกรุ่นในครอบครัว แถมยังประหยัด และปลอดภัยกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปมาก และนี่ก็เป็นสาเหตุที่หลาย ๆ บ้านเลือกซื้อรถไฟฟ้าไปใช้งานที่บ้านเพราะได้ทั้งความปลอดภัย ประหยัด และรักษาสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน แถมคนในครอบครัวสามารถใช้ได้ทุกวัยทุกรุ่น

เราควรเลือกซื้อรถไฟฟ้าจากอะไร?

• การใช้งาน

การเลือกซื้อรถไฟฟ้าขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการใช้งานแบบไหน เช่น ใช้ไปซื้อของที่ตลาด หรือขับไปที่ใกล้ๆแถวบ้าน ก็อาจจะเลือกซื้อรถไฟฟ้าที่คันเล็กกระทัดรัด หรือถ้าเน้นใช้งานแบบครอบครัว มีลูกหลาน ก็ควรเลือกรถไฟฟ้าที่รองรับน้ำหนักได้เยอะ มีเบาะที่กว้าง ก็จะตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น

• สมรรถนะ

รถไฟฟ้าต้องรู้ถึงสมรรถนะของรถว่ามีอะไรบ้าง มอเตอร์กำลังไฟเท่าไหร่ เร่งเครื่องได้เร็วแค่ไหน ชาร์จไฟ 1 ครั้ง ขับได้กี่กิโลเมตร ได้มาตรฐานหรือไม่

• แบตเตอรี่

การเลือกประเภทแบตเตอรี่มีความสำคัญมาก เพราะว่าการเลือกใช้งานรถไฟฟ้าแต่ละรุ่นมีความจุที่แตกต่างกัน ต้องเลือกว่าเราต้องการใช้ในระยะทางแค่ไหน ความไกลจากระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเท่าไหร่

• ขนาดของตัวรถ

รถไฟฟ้าแต่ละรุ่นนั้นมีการดีไซน์ที่ต่างกัน การเลือกซื้อรถไฟฟ้าก็เลือกตามการใช้งานและความชอบของแต่ละคน ถ้าชอบแบบใช้งานสะดวก ระยะทางไม่ไกล รถไฟฟ้าคันไม่ใหญ่มากก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่า

 

• อะไหล่ในการซ่อมรถ

ร้านรับซ่อมทั่วไปอาจจะไม่มีอะไหล่สำหรับรถไฟฟ้าเพราะระบบของรถไฟฟ้าหากจะซื้อรถไฟฟ้า ก็ต้องเลือกซื้อกับร้านที่มีการรับประกันรถ ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์ แบตเตอรี่ และมีทีมช่างพร้อมให้บริการแบบครบครัน

• ระบบความปลอดภัย

หลายคนอาจจะคำนึงเรื่องของความปลอดภัยเป็นข้อสำคัญในการตัดสินใจ ต้องดูเรื่องความปลอดภัยภายในและความปลอดภัยภายนอก ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ของตัวรถแต่ละรุ่นว่ามีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด

• บริการหลังการขาย

ก่อนซื้อรถไฟฟ้า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องดูบริการหลังการขายด้วย มีการให้บริการหรือการพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดดีไหม เราควรเลือกซื้อกับร้านที่มีบริการหลังการขาย แนะนำแก้ปัญหาเกี่ยวกับรถไฟฟ้าได้เป็นอย่างดีอย่างดี ทางร้าน MR. Bike ของเรามีบริการหลังการขายเรายินดีพร้อมให้บริการและคำปรึกษา โดยทีมช่างมากประสบการณ์ ตลอด 24 ชม.

ข้อแนะนำในการดูแลรถไฟฟ้า

• ศึกษาดูคู่มือการใช้รถอย่างละเอียด

คู่มือการใช้รถไฟฟ้านั้นสำคัญมากเพราะจะบอกถึงเรื่องของการดูแลรักษารถไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าและปุ่มต่าง ๆ ของตัวรถจักรยานไฟฟ้า และถ้าร้านไหนมีการรับประกันจักรยานไฟฟ้าก็จะดีมากเลยนะคะ ในคู่มือก็จะมีเขียนถึงเรื่องของเงื่อนไขการรับประกันจักรยานไฟฟ้าด้วย

• ทำความสะอาดรถจักรยานไฟฟ้าอย่างเป็นประจำ

หมั่นดูแลความสะอาดรถและแผงวงจร และขั้วแบตเตอรี่ให้ดี ไม่ควรมีสนิม หรือ สัมผัสกับความชื้นเพราะอาจจะเกิดปัญหาตามมาได้ การทำความสะอาดรถจักรยานไฟฟ้านั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่เช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ฝุ่นเกาะกับตัวรถมากเกินไป

• ตรวจเช็คระบบต่าง ๆ ของจักรยานไฟฟ้าอยู่เสมอ

การตรวจเช็คความผิดปกติของรถต่าง ๆ นั้น อาจจะดูยากสำหรับบางคนแต่เราสามารถตรวจเช็คเบื้องต้นได้ อาจจะลองสังเกตว่าระบบต่าง ๆ ทำงานได้ปกติดีไหม

ทั้งการทำงานของแบตเตอรี่ การชาร์จแบตเตอรี่ ระบบป้องกันการขโมย ระบบเบรค มอเตอร์ และรวมไปถึงยางรถ นอกจากจะเช็คด้วยตัวเองเบื้องต้นแล้ว ควรหมั่นนำไปเช็คระบบภายในของรถที่ศูนย์อย่างเป็นประจำเสมอ เพื่อตรวจเช็คความผิดปกติของรถ และซ่อมได้ทัน

 

การบำรุงรักษาและการดูแลจักรยานไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถยืดอายุการใช้งานรถจักรยานไฟฟ้าได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น เพียงแค่ลองนำวิธีดูแลรถเหล่านี้ไปปรับใช้กับการดูแลรถของคุณได้ง่าย ๆ ในเบื้องต้นตามที่เราได้แนะนำ ก็จะสามารถช่วยป้องกันความเสียหายและยืดอายุการใช้งานจักรยานไฟฟ้าให้ใช้ได้ยาวนานและคุ้มค่ายิ่งขึ้น

 

วิธีใช้รถไฟฟ้าอย่างถูกต้อง

• ระบบการเปิด-ปิดมอเตอร์

จักรยานไฟฟ้า สามารถเปิดได้อย่างน้อย 2 ระบบคือ ระบบรีโมท และระบบกุญแจ เมื่อจะทำการใช้รถ ควรเปิดสวิตซ์หรือกุญแจ เมื่อคุณนั่งแล้วและพร้อมจะออกจากตัวเท่านั้น ไม่ควรเข็นรถไปพร้อมเปิดกุญแจไป เนื่องจากมือจะไปเผลอบิด อาจจะทำให้รถเกิดพุ่งกระชาก จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

• ระบบเบรก หยุดรถ

การเบรก สามารถทำได้โดยบีบก้านเบรก ก่อนใช้งานรถควรตั้งก้านเบรก ที่ล้อ จะมีสายเบรกและน็อต สำหรับปรับตั้งการเบรก เมื่อจอดรถให้เปิดใช้สวิทซ์หยุดมอเตอร์ เพื่อป้องกันการบิดคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ

• ระบบแบตเตอรี่

ตรวจแบตเตอรี่คงเหลือ หากแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 2 ขีด กล่องควบคุม จะลดความเร็วปลายลง เพื่อให้สามารถไปถึงเป้าหมายได้ และควรชาร์ต5-7ชั่วโมง อย่าปล่อยให้แบตเหลือขีดแดง เพราะจะทำให้แบตเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

• เปิดไฟเสมอ แม้ตอนกลางวัน

แนะนำให้เปิดไฟไว้ เพื่อความปลอดภัย เพราะการเปิดไฟหน้ารถจะช่วยเพิ่มระยะการมองเห็นรถยนต์ในเวลากลางวัน  สามารถช่วยลดอุบัติเหตุบนถนนได้มากขึ้น

• สัญญาณไฟเลี้ยว และแตร และเสียงเตือน

การให้สัญญาณก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ผู้ร่วมทาง หรือผู้ที่ขับขี่ตามเรามา ทราบได้ว่าเราจะไปในทางไหน หรือใช้แตรเมื่อผู้ร่วมทางอาจมองไม่เห็นเรา ซึ่งต้องฝึกใช้และควรกดหรือเลื่อนสวิตช์ก่อนใช้งาน เพื่อตรวจสอบว่ารถยังสามารถใช้ได้ดี ในส่วนระบบเตือน เมื่อมีการการใช้ความเร็วขับขี่


รถไฟฟ้าถือว่าเป็นรถที่ควรมีติดบ้านไว้ ทุกคนในบ้านสามารถใช้งานได้ง่าย ๆ ใครก็ใช้ได้ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่หลาย ๆ บ้านเลือกซื้อรถไฟฟ้าไปใช้งานที่บ้านเพราะได้ทั้งความปลอดภัย ประหยัด และรักษาสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน

เลือกรถไฟฟ้าที่ให้ความสะดวกสบายและสไตล์ที่ตอบโจทย์กับคุณให้ได้มากที่สุด ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำให้ทดลองขับจริงก่อน เพื่อให้ได้รถไฟฟ้าที่เหมาะสมกับคุณที่สุด หากใครที่สนใจรถไฟฟ้า  สามารถเลือกชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ช่องทางการติดต่อของ ร้าน Mr Bike หรือใครอยากจะเห็นของจริงและทดลองขับ ก็สามารถมาชมได้ที่หน้าร้านของเราได้เลยค่ะ